วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วัยทีนท้องเกลื่อนเมืองทำแท้งทิ้งเรียนเลี้ยงลูก


สลด! พบ นร.-นศ.ตั้งครรภ์พุ่ง วัยโจ๋แก้ปัญหาตัดช่องน้อยทำแท้ง ทิ้งโรงเรียนเลี้ยงลูก “ปลัด พม.” ชี้ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุขต่างๆเป็นเหตุทำให้เกิดปัญหา “กระทรวงศึกษาธิการ.” เผยไม่มีนโยบายไล่นร.-นศ.ท้องออกจากสถาบัน แนะต้องพักการเรียนเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กที่อยู่ในท้อง

สืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2552 เสนอถึงปัญหาวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานเพิ่มขึ้นส่งผลทำให้เกิดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งผลสำรวจระหว่างปี พ.ศ.2544-2552 พบว่าการตั้งครรภ์ในสตรีวัยรุ่นเพิ่มขึ้นจาก 10% มาเป็น 40% นอกจากนี้จากรายงานของโรงพยาบาลรามาธิบดีระบุว่าสถิติวัยรุ่นคลอดลูกวันละ 140 ราย เฉลี่ยปีละ 5 หมื่นราย ส่วนใหญ่ท้องโดยไม่ตั้งใจ เพราะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร


การตัดสินใจของวัยรุ่น


นางสาวลำเจียก (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เปิดเผยความรู้สึกของตนว่า จากประสบการณ์การตั้งครรภ์ก่อนกำหนด คิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการปรึกษากับผู้ปกครอง เพราะปัญหาวันรุ่นท้องก่อนวัยอันควรเป็นเรื่องใหญ่เกินไปสำหรับคนสองคนที่ต้องตัดสินใจกันเอง จะเห็นได้วาหลายๆคู่ที่หนีปัญหาไม่กล้าสู้หน้าผู้ใหญ่และส่วนมากจะตัดสินใจโดยการทำแท้ง ซึ่งตรงนี้ส่งผลกระทบไปยังเด็กที่อยู่ในท้อง

นางสาวลำเจียก กล่าวต่ออีกว่า ในตอนแรกที่รู้ว่าตั้งครรภ์มีความเครียดมากและยอมรับว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่โชคร้าย เนื่องจากแฟนหนุ่มเมื่อรู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นจึงขอเลิกและไม่รับผิดชอบอะไรเลย จากปัญหาที่เกิดขึ้น ตนรู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะเผชิญกับผลกระทบต่างๆที่จะเจอในอนาคต แต่ก็จะทำไห้ดีที่สุด จึงอยากให้สังคมเปิดโอกาสยอมรับกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะคนที่ทำผิดพลาดย่อมต้องการโอกาส และกำลังใจ

นางสาวอั้ม (นามสมมติ )อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อรู้ว่าตั้งท้องจึงปรึกษากับแฟนหนุ่มของตน โดยไม่มีความคิดที่จะปรึกษาพ่อแม่เลยเพราะกลัวว่าจะถูกดุและโดนทำโทษ เลยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมาประมาณ 7 เดือน แต่ในที่สุดพี่สาวของตนก็จับได้ จึงตกลงกันและแก้ไขปัญหาโดยการทำแท้ง เมื่อไปตรวจแพทย์ก็ ไม่สามารถเอาเด็กออกได้ เพราะมีอายุครรภ์ 7เดือน ซึ่งมากเกินไปสำหรับการทำแท้งและอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตนและลูกในท้อง จึงทำให้ต้องเก็บเด็กในท้องเอาไว้และบอกความจริงกับพ่อแม่ในที่สุด

“ รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อได้บอกความจริงกับที่บ้าน แต่เราก็ต้องเจอกับปัญหาที่จะตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียนเพราะตอนนี้หนูก็ออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ก็ให้แฟนเรียนต่อ และอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเจอคือ การเลี้ยงลูกเพราะเราเองก็เป็นคุณแม่มือใหม่กลัวว่าจะทำได้ไม่ดีพอ แต่ปัจจุบันก็เริ่มปรับตัวได้แล้วเพราะมีคุณแม่เคยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา ” นางสาวอั้ม กล่าว

ขณะที่นายหวาย ( นามสมมติ ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนของนางสาวอั้ม ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า จากเป็นหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนกำหนด ตนเป็นหนึ่งคนที่ประสบกับปัญหานี้ และเห็นว่าการตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งตนและแฟนสาวก็เกือบเป็นอีกคู่ที่ตัดสินใจในทางที่ผิด ทั้งนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการหันหน้าชนกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อชีวิตใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

“ ตอนนี้ผมและแฟนเราได้มีลูกด้วยกัน 2 คน และการดำรงชีวิตในตอนนี้ค่อนข้างจะลงตัวเพราะได้รับคำปรึกษาจากพ่อแม่และการช่วยเหลือจากท่านทั้งสอง ส่วนปัญหาที่ต้องเจอในตอนนี้คือการแบ่งเวลาเรียนและเวลาให้ครอบครัว เพราะผมต้องเรียนไปด้วยและเลี้ยงลูกไปด้วย ถ้าถามว่าเหนื่อยหรือเปล่าก็เหนื่อยครับแต่ต้องทำเพราะมันเป็นหน้าที่ของเรา และที่สำคัญปัญหาเหล่านี้เราเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เราจึงต้องรับผิดชอบ"นายหวายกล่าว

ด้านนางลำดวน (นามสมมติ) ผู้ปกครองของนางสาวอั้ม ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกตกใจและเสียใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะกว่าตนจะรู้ความจริงลูกสาวก็ท้องได้ 7 เดือนแล้ว และเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากที่ลูกสาวท้องก่อนวัยอันควร เนื่องจากสังคมในปัจจุบันยังไม่ยอมรับกับปัญหาวัยรุ่นท้องก่อนกำหนด แต่ต้องทำใจและยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่สำคัญที่สุดคือต้องช่วยกันแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายในครอบครัว

“ เราต้องมีสติในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะถ้าเรามัวแต่เสียใจและใช้อารมณ์ต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลต่อครอบครัว และจะทำให้ครอบครัวของเรามีปัญหา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือการยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อให้สภาพจิตใจที่กำลังย่ำแย่ของลูกสาวให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมในอนาคตได้ และให้เด็กที่อยู่ในท้องคลอดออกเป็นที่ที่มีคุณภาพในอนาคต ” นางลำดวน กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น