วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เว็บ“นวดกระปู๋”ระบาด




เว็บ“นวดกระปู๋”ระบาดตำรวจระบุยังไร้คนร้องเรียน เตือนผู้ใช้บริการระวังความสะอาดจากหญิงบริการ ชี้ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์50 กระทำอนาจารผ่านอิเตอร์เน็ต สำนักโรคเอดส์เผยเพศสัมพันธ์ทางปากมีโอกาสเสี่ยงติดโรค แนะควรสวมถุงยาง



เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2553 ผู้สื่อข่าว “หอข่าว” รายงานว่า มีการค้นพบเว็บไซต์ขายบริการทางเพศ โดยใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางในการค้าและบริการ ทั้งนี้ในเว็บwww.kapooclub.comยังบอกถึงสถานที่ตั้งของร้านขายบริการรวมมากกว่า 20 ร้าน รวมทั้ง ราคาส่วนลดโปรโมชั่น ในเว็บไซต์ยังมีเว็บบอร์ดที่เปิดให้บริการ แนะนำร้านต่างๆ และในบางครั้งยังมียังมีรูปของหญิงสาวในลักษณะเปลือยกายท่อนบน เป็นการดึงดูดความสนใจอีกด้วย



หลังจากสำรวจเว็บไซต์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าค้นหาผ่าน กูเกิล(google.com) พิมพ์คำสำคัญว่ากะปู๋เว็บไซต์kapooclub.comจะปรากฎขึ้นมาเป็นอันดับแรก ซึ่งภายในตัวเว็บไซต์มีการใช้ภาษาที่เป็นทั้งตัวย่อ และภาษาเฉพาะของเว็บ เช่น นกป.มาจากคำว่า นวดกระปู๋, น้องพลับ คือ การ สำเร็จความใคร่สองครั้ง เป็นต้น และในเว็บไซต์ดังกล่าวเมื่อสมัครสมาชิก ยังมีทั้งแผนที่ของแต่ล่ะร้านรวมถึงวิธีเดินทางไปอย่างละเอียด



ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปอีกว่า เว็บไซต์ดังกล่าวได้มีการเปิดเผยถึงราคา รวมทั้งข้อตกลง หรือโปรโมชั่นตามร้านต่างๆ ซึ่งผู้ขายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ราคาแตกต่างกันออกไปตามเกรดของร้าน ตั้งแต่ 300 – 1,500 ซึ่งร้านมีหลายระดับ ราคา 800 -1,500 บาท เป็นร้านที่ผู้หญิงแนวพริตตี้ราคาจะสูงกว่าร้านอื่นทั่วไป รวมทั้งยังมีการแบ่ง รูปแบบการให้บริการ เช่น ถอดบน ถอดล่าง ถอดหมด ซึ่งเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มไปตามที่ผู้ซื้อขอกับผู้หญิงที่ให้บริการ และยังมีการขายบริการแบบสอดใส่รวมอยู่ด้วยซึ่งมีราคาแพงที่สุด



จากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นสำรวจร้านนวดกะปู๋ พบว่าการขายบริการรูปแบบนี้มีรูปแบบต่างจากการขายบริการทั่วไปตรงที่ผู้ขายบริการจะใช้มือนวดที่อวัยะเพศของผู้ซื้อบริการ ซึ่งมีทั้งการ นวดน้ำมัน นวดกษัย แล้วแต่ที่ผู้ซื้อบริการต้องการ และร้านในลักษณะนี้มีอยู่กระจายอยู่ทั่วไปในเขตกรุงเทพฯ บางร้านมีหลายสาขา ซึ่งจะเปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณบังหน้า มีป้ายโฆษณาเหมือนร้านทั่วไป แต่แอบแฝงการขายบริการทางเพศ



ทางด้าน นาย เอ (นามสมมุติ) ผู้เคยใช้บริการนวดกะปู๋ กล่าวว่า ตนเองเคยซื้อบริการทางเพศหลายรูปแบบ แต่ที่ติดใจและมาใช้บริการนี้บ่อย รู้สึกแปลกใหม่และถึงใจกว่าบริการทั่วไป เพราะเป็นการนวด หรือสัมผัสไปที่อวัยวะเพศโดยตรง ให้ความรู้สึกดีกว่าการซื้อบริการแบบสอดใส่ ถึงต้องจ่ายเยอะกว่า แต่ตนมาใช้เพียงเดือนล่ะครั้ง จึงไม่เป็นปัญหานัก กับเรื่องเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งการนวดกษัยที่ตนชอบไปทำต่างกับการสำเร็จความใคร่ เนื่องจากผู้ขายบริการฝึกให้ผู้ใช้บริการอดกลั้นก่อนที่จะสำเร็จ เป็นการผ่อนคลายมากกว่า



“ในตอนแรกๆก็คิดว่ามันคงเหมือนอาบ อบ นวด ทั่วไป ที่มีถอด ชิ้น สองชิ้น แต่เพื่อนมาบอกให้ไปลองดู บอกว่าเป็นแบบใหม่ ผมเลยไปลองดู ตอนแรกไปนวดน้ำมันก็โอเค แต่พอไปลองนวดกษัยดูผมว่ามันเด็ดกว่าเยอะ เหมือนกับเราไปนวดตัว แต่นี่เปลี่ยนมาที่อวัยวะเพศเท่านั้นเอง มันดีน่ะเวลานวดเหมือนกับได้ผ่อนคลาย ถามว่าต่างกับทำเองไหม ก็ต่างกันตรงที่มีคนทำให้ เราไม่ต้องทำแค่นั่งเฉยๆ” นาย เอ กล่าว




นายเอ กล่าวต่อว่า เมื่อมีร้านเปิดกันเยอะทำให้มีการแข่งขันสูง ร้านแต่ละร้านก็มีโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม หากจะไปต้องเลือกร้านที่ไปเป็นประจำ เพราะตนคิดว่าเรื่องความสะอาดนั้นต้องมาก่อน ฉะนั้นควรจะเลือกร้านที่ไว้ใจได้ และมีบริการที่ครบครัน เนื่องจากการขายบริการถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ในเรื่องของความสะอาดย่อมไม่มีคนมาตรวจสอบ การไปใช้บริการทางเพศทุกครั้งจึงควรดูให้ดีก่อน เพราะไม่คุ้มกับความเสี่ยงจากการติดโรค






“ส่วนใหญ่ พอมีร้านประเภทนี้เยอะขึ้น ก็ไม่ค่อยอยากจะไปแล้ว เพราะ บางร้านที่ไปไม่มีคนทำความสะอาด ผมกลัวอย่างเดียวเรื่องความสะอาด ถ้าไม่สะอาดก็ไม่อยากใช้ ใครจะรู้ถ้าน้องเค้าเป็นเอดส์ มันสามารถติดกันทางน้ำลายได้ ถ้าเค้ามาใช้ปากกับผม ผมก็มีสิทธิ์เป็นได้ ยังไงมันก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน” นาย เอ ผู้เคยใช้บริการกล่าว



นาย วิเชียร ทาแกง ผู้ประสานงานโครงการเยาวชน กลุ่มป้องกันทางพฤติกรรมและชุมชน สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวว่า การขายบริการรูปแบบนี้ มีโอกาสเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์เช่นกัน เช่นโรคหนองใน โรคเริมทางอวัยวะเพศ ที่สามารถติดต่อเมื่อโดนแค่สัมผัสบริเวณที่เป็นเชื้อ แม้จะไม่สูงเท่าการมีเพศสัมพันธ์ปกติ แต่ก็มีโอกาสที่ทั้งตัวผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เป็นตัวพาหะแพร่กระจายเชื้อได้ ส่วนการสำเร็จความใคร่ด้วยปาก อาจมีโอกาสสัมผัสกับน้ำอสุจิหรือน้ำจากช่องคลอดที่มีเชื้อเอชไอวี เนื่องจากเยื่อบุในปากมีความบางอาจมีบาดแผลที่มองไม่เห็นทำให้เชื้อปนเข้ากับบาดแผลได้ น้ำลายเองถือเป็นพาหนะอย่างหนี่ง ถึงความเสี่ยงไม่สูง แต่โอกาสนั้นขึ้นอยู่กับแต่ล่ะกรณีของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย



“ช่องทางการติดต่อมันมีหลายทาง น้ำลายเองก็ถือเป็นพาหะเชื้อเอดส์ได้ แต่ในปากก็มีกรดน้ำลายใช่มั้ย มันไปผสมปนเปกับน้ำลายทำให้เชื้อมันเจือจางลงโอกาสก็จะน้อยลง แต่มันก็ขี้นอยู่กับทั้งผู้ซื้อกับคนนวดด้วยว่าเค้ามีแผลหรือเปล่า ทั้งในปาก และตรงอวัยวะเพศ ถึงออรัลกันก็เถอะ การใส่ถุงยางดีที่สุด ” นาย วิเชียร กล่าว



ผู้ประสานงานโครงการเยาวชน กลุ่มป้องกันทางพฤติกรรมและชุมชน สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีกลุ่มพวกผู้หญิงขายบริการที่รวมตัวกันป้องกันเอดส์ และโรคจากเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เข้าไปให้ความรู้ในเรื่องการใช้ถุงยาง เรื่องความสะอาด แต่ยังคงมีตัวเลขคนติดโรคเอดส์อยู่แม้จะไม่มากเมื่อเทียบกับสมัยก่อน ซึ่งกลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดเป็นกลุ่มวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นส่วนใหญ่มักมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยาง ปัจจุบันได้มีมาตรการป้องกันและรณรงค์ เรื่องนี้อยู่มาก ซึ่งส่วนมากจัดขึ้นในช่วงเทศกาล เช่นวันวาเลนไทน์ หรือลอยกระทงเพราะ ตามสถิติเป็นวันที่วัยรุ่น มีเพศสัมพันธ์กันมากที่สุด



“เมื่อก่อนเปอร์เซ็นต์ติดโรคในกลุ่มหญิงบริการค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้ลดน้อยลงไปมาก เพราะพวกเขาเริ่มมีความรู้มีการป้องกันตัวเอง กลับกลายเป็นว่ากลุ่มเยาวชนคือกลุ่มที่มีตัวเลขของคนติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีการรณรงค์กันอยู่มีการแจกถุงยางในย่านชุมชน และกลุ่มเด็กวัยรุ่นในโรงเรียน สำหรับเดือนหน้าจะมีแคมเปญในวันวาเลนไทน์ ซึ่งโครงการล่าสุดคือทำสายวัดอวัยวะเพศ เพื่อให้วัยรุ่นรู้ว่าต้องใส่ให้ถูกขนาด ถ้าใส่ใหญ่ไปก็หลวมติดเชื้อเอดส์ได้ ถ้าเล็กไปก็รั่วติดเชื้อ บางคนใส่สองชั้นก็ทำให้แตก ควรใส่ให้พอดีจะดีที่สุด” นายวิเชียร กล่าว



พันตำรวจตรี กัลป์ วงศ์มณี สารวัตรเทคนิคศูนย์เทคโนโลยี กล่าวว่า การเปิดเว็บไซต์ลามก รวมทั้งการโพสต์ข้อความ ตั้งกระทู้ส่อไปในทางลามกอนาจาร ผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ฉบับปี 2550 มาตราที่ 14 ข้อ 4 กระทำอนาจาร รวมทั้งขายบริการผ่านทางเว็บไซต์ทั้งหลายเป็นคำพูด กระทู้ไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม ล้วนแต่มีความผิดตามกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งเว็บไซต์ข้างต้นเข้าข่ายเว็บไซต์ขายบริการ แม้ข้อความอาจไม่ใช่ แต่เจตนาส่อถือว่ามีความผิด ซึ่งทางตำรวจได้มีการตรวจสอบ และอัพเดทฐานข้อมูลเว็บไซต์ตลอด แต่ยังไม่มีการแจ้งถึงเว็บไซต์ดังกล่าวเข้ามา หากตรวจสอบพบและมีการกระทำผิดอย่างที่ว่าจริง จะมีการดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีในชั้นศาล



“ถ้าตรวจเจอก็มีสิทธิ์จับ อาศัยการเก็บล็อค(Log) แต่เว็บพวกนี้ชอบเอาไปตั้งตามเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ เราไม่สิทธิ์เข้าไปตรวจจับ เพราะกฎหมายในแต่ล่ะประเทศไม่เหมือนกัน บางประเทศจะมองเป็นเรื่องปกติก็ได้ แต่ในเรื่องนี้คงต้องตรวจสอบกันโดยละเอียดอีกที ถ้ามีมูลต้องดำเนินคดีกับเว็บไซต์ เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปตรวจสอบ”สารวัตรเทคนิคศูนย์เทคโนโลยี กล่าว



พ.ต.ต. กัลป์ กล่าวต่อว่า มาตรการป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ลามกทำได้โดยแจ้งไปทางเครือข่ายผู้ให้บริการต่างๆ ทั้ง บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ทรู และอื่นๆ ซึ่งการจัดการขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ล่ะเครือข่าย โดยทางสังกัดของตนและกระทรวงไอซีที มีหน้าที่บล๊อคเว็บไซต์ ที่หลุดรอดพ้นจากสายตาขององค์กรเครือข่ายผู้ให้บริการ รวมทั้ง เว็บไซต์ไซด์ที่เสิร์ชจากกูเกิ้ล ซึ่งปัจจุบัน สามารถบล๊อคได้กว่า 70 % แต่ทุกวันนี้มีเว็บไซต์เหล่านี้ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทางตำรวจและกระทรวงไอซีที จึงได้มีอัพเดทฐานข้อมูลเว็บไซต์เหล่านี้ตลอดเพื่อรับมือ และมีศูนย์รับแจ้งเว็บตลอด 24 ชั่วโมง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น